วันอังคารที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560

I'm willing to help you in this winter. (*-*) (^-*) (^-^)

                                                   








"Woooo...
How are you 
doing, guys?" 







Today's a lovely pretty cool day, isn't it? Honestly, I wanna stay still in my red crab warm sweater but many friends of mine asked me to better my English with Eng nid-nid with Tutor Lee... So, Let's go with them! See what Lee's preparing for us.


Hahaha..The above story's just my childish dream I could hear animals' voices. Wake up & back to reality.. I'm right here now to welcome cool weather with you guys.


โอมมม...แปลงร่างกลับมาเป็นคนไทยแพร๊บบ... ช่วงนี้อากาศเย็นจริงเย็นจัง  มาดูดีกว่าว่า มีคำพูดเก๋ๆ อะไรที่เอามาฝึกพูดกับฝรั่งได้บ้าง  ในการพูดเรื่องสภาพอากาศ หรือคำแนะนำสำหรับรักษาสุขภาพในสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลันขนาดนี้

ถามเรื่องอากาศ:

" What's the weather in Chiang Mai like now? " (ว็อทส  เดอะ  เวทเธอร์   อิน  เชียงใหม่  ไลค์  นาว)  = สภาพอากาศในเชียงใหม่ตอนนี้เป็นอย่างไร  หรือเปลี่ยนเป็น  in your country  เพื่อถามถึงสภาพอากาศโดยรวมของประเทศเขาก็ไม่แปลก


 "How's the weather there?" (ฮาวส เดอะ เวทเธอร์ แดร์)   = อากาศที่นั่นเป็นอย่างไร     there แปลว่า ที่นั่น เรียกแทนสถานที่ที่พูดถึง


"What's the temperature in Bangkok?"  (ว็อทส   เดอะ  เทมเพรจเจอร์  อิน แบ็งค็อก )    = อุณหภูมิในกรุงเทพเท่าไร    temperature  แปลว่า  อุณหภูมิ  ใช้ถามตอนวัดปรอทไข้ก็ได้นะ


"What's the weather forecast?" (ว็อทส  เดอะ  เวทเธอร์  ฟอร์แคสท)   =  พยากรณ์อากาศเป็นอย่างไร    forecast แปลว่า ทำนายหรือคาดการณ์ล่วงหน้า


"What's the weather outside like now?"  (ว็อทส  เดอะ  เวทเธอร์  เอาท์ไซด์  ไลค์  นาว =  อากาศข้างนอกเป็นอย่างไร   หรือถามถึงข้างในสถานที่นั้น  ก็เปลียนจาก  outside เป็น  inside  (อินไซด์)  ง่ายนิดเดียว 


หรือ  อาจเปลี่ยนคำขยายเวลาได้ เช่น  ระบุเดือน  "How's the weather like in July?"  , ระบุช่วงเวลา เช่น "What's the weather like at night time?" หรือ   "What will the weather be like tomorrow?"     
หรือ ตั้งคำถามแบบตอบใช่และไม่ใช่ เช่น  "Does it rain in October?" 



                                     ----------------------------------------------------------------


ตอบเรื่องอากาศ:

"It's getting cold  now."  (อืทส  เก็ททิ่ง  โคลว์ด  นาว)  =  ตอนนี้มัน (อากาศ) เริ่มหนาว   


"It's cool."  or "It's chill."  (อิทส  คูลล์   หรือ   อิทส  ชิลล์)    =  มันเย็นๆ      และอีกความหมายหนึ่งของ  " It's cool "   อาจแปลได้ว่า  อากาศดี ก็ได้  เพราะ cool แปลว่า  ดี, เยี่ยม 


"It's colder (or  cooler) than usual."  (อิทส  โคลว์ดเดอร์  (หรือ  คูลล์เลอร์)  แดน  ยูว์ชวลล์   =   อากาศหนาว (หรือ  เย็นขึ้น)  มากกว่าปกติ


"It's a warm and sunny day."  (อิทส  อะ  วอร์ม  แอนด์  ซันนี่  เดย์ )   =   มันเป็นวันที่อบอุ่น และ มีแดด


"It rains every day."   (อิท  เรนส  เอฟ์วรี่  เดย์)   =   ฝนตกทุกวัน


"They said  it will be warmer soon."  (เดย์  เซด  อิท  วิว์ล  บี  วอร์มเมอร์  ซูนน์)   =    เขา (ในที่นี้หมายถึง ผู้พยากรณ์อากาศ หรือ กรมอุตุฯ )  บอกว่า มันจะอุ่นขึ้นเร็วๆ นี้


แต่ถ้าเมื่อไหร่มีหิมะตกในบ้านเรา   ช่วยกันตะโกนดังๆ ไปเล้ยว่า  "It's so freezing."  (อิทส  โซวว์  ฟรีซซิ่ง)   หรือ  " I'm frozen."  (อามม์  /แอมม์   โฟรซเซนน์)   =  หนาวจะแข็งตายแล้ว


"It's lovely today."   (อิทส  เลิฟว์ลี่  ทูเดย์)   =  วันนี้อากาศดี     คำว่า ' lovely '  นอกจากแปลว่า น่ารัก  ยังมีความหมายว่า  good  หรือ  nice   =  ดี  นั่นเอง


                                     
                                       -------------------------------------------------------------



ถ้าเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเขาล่ะ  ก่อนจากกันก็เตือนนิดนึง  บอกว่าไงได้บ้าง  มาดูกัน....

ประโยคคุ้นหูสุดๆ   ใช้ได้หลายสถานการณ์    "Please take care."   (พลีซส์   เทคแคร์)    =  ดูแลตัวเองด้วยจ้า


เห็นสุดหล่อ  หรือ สาวน่ารัก จามบ้าง  ไอบ้างมาแต่ไกล  ให้รีบเข้าประคอง  เอ้ย..ย  บอกเสียงใสๆ ไปเลยว่า  "You should drink some warm water." (ยูวว์  ชูลว์ด  ดริ๊งค์  ซัมม์   วอร์ม  วอเธอร์)    =   เธอจ๋า..ควรดื่มน้ำอุ่นนะจ๊ะ


'' ํYou'd better see the doctor."   (ยูว์ด  เบธเธอร์  ซี  เดอะ  ดอคเธอร์)    =  ควรไปหาหมอนะ    นี่แบบเป็นหนักหน่อย   มีไข้  ไอไม่หยุด   น้ำมูกไหลประมาณนี้


ฮั่นแน่...ได้ทีเสนอตัวและน้ำใจดีดีทันที   เสียงหวานๆ พูดไปนะว่า  "Let me bring you a glass of  warm  water."      (เล็ท  มี  บริงก์  ยูวว์  ซัมม์  วอร์ม  วอเธอร์)   =    ให้ฉันเอาน้ำอุ่น มาให้แก้วนึงนะ    หืมม...หวานซ้าาาา  ให้เขาประทับใจ


"Don't forget  to keep yourself warm all the time."   (โด้นท  ฟอร์เก๊ท  ทู  คึป์พ  ยัวร์เซลว์ฟ  วอร์ม  ออลล์  เดอะ  ไทมม์)  =  อย่าลืมทำตัวเองให้อบอุ่นตลอดเวลาล่ะ    ประมาณว่าขอใช้ตัวเองไปเป็นผ้าห่ม  อ๊ะๆๆ ไม่ใช่ๆ  คือ เหมือนบอกว่าให้เขาใส่เสื้อผ้าให้อุ่นต่างหากล่ะ  แค่นี้ได้ใจเกินร้อยแน่ๆ



นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทสนทนาเรื่องเกี่ยวกับอากาศเปลี่ยนแปลง  รวมถึงการห่วงใยคนอื่น    ยังมีคำศัพท์อื่นๆ ที่นำมาพูดได้อีกเยอะเลย  ชาว ELLs ของแก็งค์  Eng nid-nid with Lee  พอนึกออกบ้างไหม  ลองทบทวนดูนะ   และ...อย่าลืมฝึกอ่านออกเสียงลงท้ายแต่ละคำอย่างถูกต้อง   อัดเสียงลงมือถือ   เอามาเปิดฟัง   เพื่อปรับปรุงสำเนียงอันดีงามแบบ  English mode ของพวกเราจะมาในอนาคตนะจ๊ะ  เลิฟๆ


                           
                                    ------------------------------------------------------------------



เพื่อ..." English never bothered us anyway."  Let's keep practicing & moving  forward!  น้องเต่าและผองเพื่อนกล่าวอย่างมุ่งมั่น ก่อนจากไป










p.s  ในที่นี้ ส่วนใหญ่ของตัวอย่างประโยค  เป็น Present Simple Tense (ปัจจุบัน)      บทสนทนาจริง เราถามสภาพอากาศที่ผ่านไปแล้ว หรืออนาคตอันใกล้ก็ได้  โดยเปลี่ยนเป็นรูปประโยคอดีตและอนาคต   และ   การเขียนคำอ่านอาจไม่ตรงกับหลักการออกเสียงที่ถูกต้องตามหลักภาษาศาสตร์นัก  ทั้งนี้เพื่อให้อ่านออกเสียงได้ง่ายขึ้นนะจ๊ะ



ขอบคุณภาพพี่เต่าเสื้อแดงรูปหล่อ  lostateminor.com, คุณ snail จาก grist.org,  น้องหมาหน้าฉงน http://newnoo24.blogspot.com  และ ท่าน Lord Cat จาก www.kapook.com  ที่มาเป็นน.ร. วีไอพีของเรา



www.facebook.com/TutorLeeLimawararut

วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Let's change ourselves in English mode!








Long time no see, guys!  How have you been lately?

I'm right here now... วันนี้มาแบ่งปันเทคนิคการฝึกภาษาอังกฤษ ให้ชาว English Language Lovers (ELLs) ของแก็งค์ Eng nid-nid with Tutor Lee แบบไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วไปเมืองนอกให้เสียสตางค์


Firstly, Let's change ourselves in English mode!  นหนึ่งวัน  เราอยู่กะอะไรมากที่สุด... เพื่อน   บ้าน  โรงเรียน  ที่ทำงาน  กิจกรรมต่างๆ  โทรศัพท์มือถือ  หรือ อินเตอร์เน็ต  คิดว่ามากกว่า 90% คือ 2 คำตอบสุดท้ายใช่มะ  ทีนี้ถ้าเราอยู่กะเขาได้มาก   แสดงว่าเราน่าจะมีความสุข  จริงมะๆ   แล้วถ้าเราฝึกภาษาอังกฤษจากเขาล่ะ  ก็จะได้ประโยชน์เพิ่มอีกทาง  จง Start it now & Stay forever  เปลี่ยนภาษาที่ใช้งานในมือถือ และ คอมพิวเตอร์ เป็น English mode ซะ  อย่างน้อย จะได้สะสมคำศัพท์เพิ่มทุกวันไง  ทีนี้ จะได้รู้ว่า ตอนกด "ส่ง" ข้อความลงเฟซ  เขาใช้คำว่าอะไรบ้าง    ที่เราพูด  "โปรไฟล์ "  มันสะกดยังไงน้อ    "Feelings" หลากหลายมีศัพท์มากมายเยอะแยะเชียว


Secondly, Let's change ourselves in English mode!  จง Search Webs or Use App. เป็นภาษาอังกฤษ  เลือกอ่านเนื้อหาที่เราสนใจ  จากไม่กี่บรรทัด   ขยับเป็นทีละย่อหน้า  และเต็มเรื่อง   ได้อะไรล่ะ?  ฝึก  Reading  เอย   อ่านออกเสียงด้วยช่วย  Speaking ไปพร้อมกัน   Grammar  กะ Spelling ตามมาติดๆ ใช่มั๊ยล่ะ   ก้าวต่อไป ลองอ่านการเขียนของคนอื่น  แล้วหัด  Give comments   แบบเขาบ้าง  ก็ Writing ไงยิ่งแจ๋วเล้ยยยย    อย่า worried เรื่อง แกรมมาร์มากนัก  ฝึกยาวๆไป เดี๋ยวดีเอง    เมนูหน้าเว็บหรือแอป ก็มีอะไรให้จำเป็นศัพท์เพิ่มเติมได้อีก


Thirdly, Let's change ourselves in English mode!  จง Play games ที่เราชอบในมือถือซะ โอ๊ย! เล่นเกมเป็นเด็ก จะได้อะไร ?  out นะ ถ้าคิดแบบนี้   "เกม" จะช่วยพัฒนาการจดจำแบบภาพและกระตุ้นสมองให้ทำงานกระฉับกระเฉงในการตอบโต้สิ่งรอบตัว    ยิ่งเล่นและมีความสุข  การเรียนรู้แบบซึมซับจะอยู่ให้เราใช้งานได้อีกนาน     รูปแบบเกมทั้งเพื่อความสนุก  และเพื่อการศึกษา   ปรับโหมดภาษาอังกฤษนะ  เรียนรู้คำสั่งในการเล่นเกมได้อีกหลายคำ  


Last but not leastLet's change ourselves in English mode!   จง Speak - Read - Record - Listen ภาษาอังกฤษของเราในมือถือ  แล้วถามว่าพอใจหรือยัง   เริ่มแก้ไขและปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อๆ ไป   ตัวเราจะบอกได้ดีที่สุดว่า ภาษาอังกฤษของเราเป็นแบบไหน  อาจจะไม่ต้องดีที่สุด  แต่ขอให้ใกล้เคียง English mode มากที่สุด ดีมะๆ



The most important tip is " No need to practice for quantity but quality จง Remember & Do อย่าฝึกด้วยปริมาณ ให้เน้นคุณภาพ แทน   ฝึกโดยเริ่มจากระดับภาษาอังกฤษที่เรามี  ค่อยๆขยับความยากที่ละนิด  ไม่จำเป็นต้องนั่งฝึกเป็นชั่วโมงงงง  แต่ฝึกทุกวัน  วันละ 15-20 นาที ได้ผลกว่า ฝึกครั้งเดียว 4 ชม.ต่ออาทิตย์ซะอีก  ไม่ต้องเหนื่อย เบื่อ กดดันตัวเองด้วย   ตั้งใจและมีเป้าหมายเพื่อทำให้ได้ แต่ไม่ใช่เร่งซะจนล้มกลางครัน  บางครั้ง slow but sure ก็ดีนะทุกคน

บางคน มีวิธีฝึกอื่นที่น่าสนใจและเหมาะสมกับตนเองมากกว่า  จง Try & have fun with your own ways. It's the best thing to better your English skills naja.



See ya real soon when the time comes  Have a super great day,guys! (*-^)(^-^)(^-*)




ขอขอบคุณภาพประกอบ alphaschoolenglish.com

www.facebook.com/TutorLeeLimawararut